การปรับปรุงความแข็งแรงของสร้อยข้อมือสายหนัง โดยการประยุกต์การออกแบบการทดลอง
คำสำคัญ:
ปัจจัย, การลดลง, การทดลองเชิงแฟคทอเรียลแบบสามระดับ (3k Factorial Design), การประกอบหลุดบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ในการเพิ่มค่าแรงดึงของสร้อยข้อมือสายหนังให้ตรงตามเป้าหมาย คือมากกว่าหรือเท่ากับ 78 นิวตัน เพื่อลดของเสียการประกอบหลุดในผลิตภัณฑ์สร้อยข้อมือสายหนัง ซึ่งมีสัดส่วนของเสียมากที่สุด โดยการวิจัยเริ่มจากการระดมความคิดและวิเคราะห์โดยผู้ที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเครื่องประดับซึ่งมีประสบการณ์ในการทำงานโดยตรงร่วมกัน ทำการเคราะห์โดยใช้ผังก้างปลา (Cause and effect diagram) จากนั้นจึงได้นำปัจจัยทั้งหมดมาวิเคราะห์ต่อด้วยตารางแสดงความสัมพันธ์ของเหตุและผล (Cause & Effect Matrix) รวมทั้งวิเคราะห์ลักษณะข้อบกพร่องผลกระทบ (Failure Mode and Effects Analysis, FMEA) จากการวิเคราะห์ค่าความเสี่ยง (Risk Priority Number, RPN) ซึ่งนำมาจัดเรียงตามลำดับคะแนนโดยใช้แผนภูมิพาเรโต (Pareto Diagram) และทำการคัดเลือกปัจจัยที่มีค่าความเสี่ยงสูง ที่มีสัดส่วนน้ำหนักร้อยละ 80 ได้แก่ อัตราส่วนกาว Resin : Hardener, ขนาดหัวบีบ และปริมาณกาว ซึ่งคาดว่ามีอิทธิพลต่อค่าแรงดึงของการประกอบสายหนังเป็นอย่างมาก มาใช้ในการออกแบบการทดลอง ซึ่งใช้หลักการออกแบบการทดลองเชิงแฟคทอเรียลแบบสามระดับ (3k Factorial Design) โดยทำการทดลอง 3 ปัจจัย โดยปัจจัยละ 3 ระดับ ทำการทดลองซ้ำ 2 ครั้ง รวมจำนวนทั้งสิ้น 54 การทดลอง การทดลองครั้งละ 10 ชิ้น จากการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ผลการทดลองพบว่าระดับปัจจัยที่เหมาะสม ที่ให้ค่าแรงดึงที่มากที่สุดคือ อัตราส่วนกาว Resin : Hardener ที่ 1 : 0.6, ปริมาณกาว 12 มิลลิกรัม และขนาดหัวบีบ 2.7 มิลลิเมตร จากผลการดำเนินการปรับปรุงพบว่า สามารถเพิ่มค่าแรงดึงเฉลี่ยตรงตามเป้าหมาย โดยก่อนปรับปรุงค่าแรงดึงเฉลี่ยอยู่ที่ 70.30 นิวตัน เพิ่มขึ้นเป็น 111.40 นิวตัน ที่หลังปรับปรุง คิดเป็นเปอร์เซ็นต์การปรับปรุงค่าแรงดึงเพิ่มจากก่อนปรับปรุง 58.46%
เอกสารอ้างอิง
สมบัติ สุขนิจ (2548). การแก้ไขปัญหาผิวเป็นตุ่มในอุตสาหกรรมผลิตเม็ดพืวีซีโดยแนวทางซิกซ์ ซิกม่า, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
นภัสสวงศ์ โอสถศิลป์ (2562). การปรับปรุงคุณภาพ.
ชวัล เลิศกำธรชัย (2561). การหาปัจจัยที่เหมาะสมเพื่อลดจำนวนของเสียในกระบวนการเชื่อมเหนี่ยวนำแบบจุดของฝาถังน้ำมันโดยใช้เทคนิคการออกแบบการทดลอง, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครหนือ.
รณชัย ไม้สนธิ์ (2553). การลดของเสียจากการอบยางในกระบวนการผลิตยางรถโดยใช้เทคนิค FMEA, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุรชัย จันทร์เถื่อน (2560). การประยุกต์ใช้การออกแบบการทดลองเพื่อลดปริมาณของเสียประเภทฉีดไม่เต็มแบบ ในกระบวนการฉีดขึ้นรูปชิ้นส่วนรถยนต์, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครหนือ.
Cohen, J. (2013). Statistical power analysis for the behavioral sciences. Academic press.
Douglas C. Montgomery. (2012). Design and Analysis of Experiments John Wiley & Sons, Inc.
Narang, A., Ben-Zvi, A., Afacan, A., Sharp, D., Shah, S. L., & Huang, B. (2012). Undergraduate design of experiment laboratory on analysis and optimization of distillation column. Education for Chemical Engineers.
ปารเมศ ชุติมา (2545). การออกแบบการทดลองทางวิศวกรรม, สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พิทักษ์ชน วิเศษ (2556). การลดของเสียการผลิตชิ้นไม้สับโดยการออกแบบการทดลอง, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ทศพล เกียรติเจริญผล (2538). การหาเงื่อนไขที่เหมาะสมในการเคลือบแลกเกอร์บนแผ่นเหล็กเคลือบดีบุกโดยวิธีออกแบบการทดลอง, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
วรรณฤดี อินทนะนก (2558). การกำหนดเงื่อนไขที่เหมาะสมในการลดของเสียในกระบวนการสกรีนโลหะบัดกรี, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
นิคม ถนอมเสียง (2551). การคำนวณขนาดตัวอย่าง Sample Size Determination.
Lwanga, S. K., Lemeshow, S., & Organization, W. H. (1991). Sample size determination in health studies: a practical manual. World Health Organization.
พรเทพ ลาภธุวะศิริ (2544). การประยุกต์ใช้การออกแบบการทดลองเพื่อการลดของเสีย กรณีศึกษากระบวนการผลิตเพลากลาง, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
วรงค์พร บุณยมานนท์ (2556). การกำหนดปัจจัยการผลิตถ้วยพลาสติกด้วยการออกแบบการทดลอง กรณีศึกษาโรงงานผลิตพลาสติกบรรจุภัณฑ์, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครหนือ.
วาสนา ช่อมะลิ (2555). การลดเวลาสูญเสียของเครื่องผสมยางจากยางติดประตูปล่อยยาง, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อลงกต กาญจนคช (2538). การปรับปรุงความแข็งแรงของแผ่นกระดาษลูกฟูกด้วยวิธีการออกแบบการทดลอง,จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ของบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารฉบับนี้จะยังเป็นของผู้แต่งและยินยอมให้สิทธิ์เผยแพร่กับทางวารสาร
การเผยแพร่ในระบบวารสารแบบเปิดนี้ บทความจะสามารถนำไปใช้ได้ฟรีในการศึกษา และในทางที่ไม่เกี่ยวกับการค้า
